วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2552

การเมืองเป็นเรื่องดี แต่ นักการเมืองช่างเลวทรามยิ่งนัก


นับจากพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งอาณาจักรไทยเมื่อ 10 ธันวาคม 2475 นับเป็นเวลากว่า 76 ปีแล้วที่บ้านเราได้เปลี่ยนการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช(Monarchy) มาเป็นระบอบประชาธิปไตย(Democracy) ซึ่งนานาอารยะประเทศใช้ระบบนี้กันทั่วไป


สำหรับเมืองไทย การปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่ผ่านมาค่อนข้างล้มลุกคลุกคลานเรื่อยมา แต่อย่างไรเสียน่าจะเป็นระบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนไทยแล้ว แต่ต้นเหตุที่สำคัญ และไม่ค่อยมีบันทึกเอาไว้ แต่ประชาชนทั่วไป จดจำได้ตลอดเสมอๆ นั่นคือ ตัวบุคคล หรือที่พวกเรารู้จักกันดี ในนาม "นักการเมือง" หรือในปัจจุบัน น่าจะเหมาะสมกว่ากับคำว่า "นักเลือกตั้ง" ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในอดีต ระบบไม่ได้มีปัญหา แต่ตัวปัญหาอยู่ที่นักการเมืองต่างหาก ยิ่งปัจจุบันนี้ การต่อรอง การแก่งแย่ง ชิงดี เพื่อผลประโยชน์แห่งตนยิ่งมีให้เห็นอย่างแจ่มชัด ไม่ละอายต่อการกระทำ อ้างประชาชน อ้างบ้านเมือง นักการเมืองจำพวกนี้ มีให้เห็นมากมาย เรื่องของอุดมการณ์ของนักการเมืองอย่าไปถามหาให้เสียเวลา


นักการเมือง ที่เราเห็นตามสื่อมวลชนต่างๆ บางคนเห็นแล้วแทบรับประทานอาหารไม่ลง บางคนแต่งตัวโก้ใส่สูทผูกไทด์ แต่เบื้องหลังการก้าวเข้ามา ต้องผ่านกระบวนการต่างๆ ชนิดที่ผู้คนทั่วไปคิดไม่ถึงกว่าจะได้ตำแหน่งหรือชนะการเลือกตั้งมา


นักการเมือง บางคน ก่อนก้าวมาสู่การเมือง ค่อนข้างเป็นคนมีอุดมการณ์ แน่วแน่ ทำเพื่อประชาชน แต่เมื่อเข้าเกลือกกลั้วกับ นักการเมืองเลวๆส่วนใหญ่ ก็ทวนกระแสไม่ได้ต้องตามน้ำ บางคนรับไม่ได้ก็เลิกเล่นการเมืองไป บางคนปรับตัวได้ ขายตัว ขายอุดมการณ์ ก็กลายเป็นนักการเมืองได้เต็มตัว เหมือนเพลงของแอ็ค คาราบาว ร้องเอาไว้ "จิ้งจกเปลี่ยนสี โสเภณีการเมือง" คงเห็นภาพได้ชัดเจน


คำว่า "โสเภณีการเมือง" นี่มันเลวร้าย ทำลายชาติ มากมายเหลือคณา หญิงโสเภณีตามสถานบริการต่างๆ ยังมีคุณประโยชน์มากกว่า นักการเมืองขายตัวเสียอีก เพราะพวกเธอเหล่านั้น พอขายร่างกาย เพื่อระบายอารมณ์ให้กับชายต่างๆ อย่างน้อยสิ่งดีๆที่ตามมาคือ พวกเธอได้เก็บเงินส่งน้องเรียนบ้าง ส่งให้แม่ที่อยู่ชนบทบ้าง บางคนเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำก็เปลียนอาชีพเป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ สร้างงานสร้างรายได้เสียภาษีบำรุงชาติ น่าชมเชยกว่าพวกนักการเมืองชัวๆ ยิ่งนัก


นักการเมืองแย่ๆพวกนี้ นอกจาก พูดอย่างทำอย่าง แล้ว ยังพยายามหาทางหลบเลี่ยง ทำตัวให้เหนือกฎหมาย เหนือคนธรรมดาทั่วไป


การเมืองบ้านเราทุกวันนี้ที่มันวุ่นวาย อยู่ก็เพราะพวกนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ล้วนแต่ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ จะขยับจะอ้าปากอะไร รู้ทันกันหมด



การหาลู่ทางแบบ ศรีธนญชัย เพื่อตีความเข้าข้างตนเองมีให้เห็นอยู่ประจำ จนเห็นแล้วอยากโดดสกายคิกค์จอทีวีเสียจริงๆ

ท้ายที่สุด ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยแบบไทยๆ จะเดินไปในทิศทางใด ประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ จะพึ่งใครได้ นักการเมืองทุกระดับล้วนแต่มีจำพวกแบบนี้อยู่ทั้งสิ้น

ฤาว่า ประเทศไทยเราไม่เหมาะกับการปกครองแบบนี้กระนั้นหรือ????????????????????????????

...........แล้วท่านว่า ควรเป็นระบอบใดที่เหมาะสมกับระบบสังคมไทยกันล่ะ?????????????????????


แต่ ไม่ว่าระบอบ ระบบ ใดที่ประเทศอื่นๆ ใช้แล้วได้ผล แต่เมื่อนำมาสู่เมืองไทย กลับล้มเหลวไม่เป็นท่ามามากมาย คนญี่ปุ่น เคยพูดว่า "เมืองไทยนั้นอุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง ยกเว้น ก็คนไทยเท่านั้น"

ไม่มีความคิดเห็น: